ระหว่างเลือกความรู้สึกกับความถูกต้องของสมองอีกซีก ควรเลือก??

เริ่มเล่าเรื่องเลยนะคะ
สมัยตอนม.ต้น เราเรียนโรงเรียนหญิงล้วนค่ะ
เราเลยปลื้มทอมมาก กรี๊ดทอมสุดๆ
ทั้งที่ตอนประถม เกลียดสุดๆเลย ไม่ชอบเลย ขี้เก๊ก ผิดเพศ บลาาา
แต่สุดท้ายก็จบที่ชอบทอมมาตั้งแต่ม.2 ค่ะ
เกลียดอะไรได้อย่างนั้นจริงๆ

พอม.ปลายย้ายไปเรียนกรุงเทพค่ะ เป็นโรงเรียนสห
ก็ยังชอบทอมอยู่ดี เพื่อนผุ้ชายมาจีบก็มีค่ะ แต่สุดท้ายเราก็มองเค้าเป็นเพื่อนคนนึง
เพื่อนในห้องรับรู้หมด ว่าเราชอบทอม ไม่มองผู้ชายเลย
เพื่อนผู้ชายก้ชอบมาถามว่าทอมดีกว่าผู้ชายยังไง ทำไมไม่ชอบผู้ชาย?
เราก็ตอบตามความรู้สึกตอนนั้นค่ะ ว่า เราอยู่แล้วสบายใจกว่า
ไม่อึดอัด ไม่เกร็ง เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่
และที่สำคัญ ไม่ลามก ล่วงเกิน (เท่าผู้ชายบางคน)
เราค่อนข้างหัวโบราณกับเรื่องเซ็กส์มากเมื่อก่อน

พอเวลาผ่านไปๆ เราก็ชอบทอมมาเรื่อยๆ มีคุยๆมาตลอด
แต่ไม่เคยคบเป็นเรื่องเป็นราว เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ซึ่งเป็นทอมคนเดียว ตอน ม.ต้น
ส่วนม.ปลาย ไม่รู้ว่าเรียกว่าแฟนมั้ย เป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ (ผู้หญิงห้าว)
ซึ่งช้ำหนักมากค่ะคนนี้ เรียกว่าอาการสาหัสเลย

พอขึ้นมหา'ลัย ก็ยังคงปลื้มทอม มาตลอด ชอบคนโน้นคนนี้
แต่ผิดหวังทุกครั้งเลย ไม่รู้ทำไม เพื่อนเคยบอกว่าเราไม่ใช่สเป๊คทอม
ต้องเป็นผู้หญิงตัวเล็ก บอบบาง น่าทะนุถนอม จ่ะ

แต่ก็ยังไม่ถอดใจเลิกชอบนะ ชอบมาเกือบ 10 ปี มันไม่เปลี่ยนกันง่ายๆนะ

แต่...
แล้วก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น ตอนเข้ามาทำงานค่ะ
รวบตึงเลยนะคะ ช่วงนั้นเราเหงามาก ก็หาคนคุยในแอพแชท
ตอนนั้นคุยเป็น 10 คนเลยค่ะ (คืองงมาก)
ผู้ชายทั้งนั้นเลยนะคะ
อ๋อลืมบอกค่ะ ตอนหาคนคุยในแอพ ทินเดอร์ นั่นแหละค่ะ
เลือกเพศแล้วนะคะ เอาผู้หญิง มีแมทค่ะ แต่คุยๆแล้วก้หาย
หรือบางคนที่เราถูกใจมาก เค้าก็ไม่แมทกับเราอะ
ก็เหงา ไม่รู้ทำไง อยากหาคนคุย เปลี่ยนเป็นเลือกเพศชายค่ะ
คราวนี้ก็ได้คนมาคุยเพียบ ..

ช่วงนั้นเริ่มรู้สึก เราปันใจให้เพศชายหน่อยๆแล้ว
จนที่พีคสุดคือ ในที่ทำงานค่ะ เรากับผู้ชายคนนึง ไม่รู้จะเรียกความสัมพันธ์ว่าไงดี
คือต่างฝ่ายต่างกั๊ก แต่หยอกกัน สบตากัน แกล้งกัน คือมีฟอร์มทั้งคู่นั่นแหละค่ะ
ด้วยความที่เค้าก็หน้าตาดี เราก็คิดว่าเราก็ได้อยู่ เลยโยเย ไม่วางฟอร์ม
แต่ตอนนั้นยอมรับว่าเพ้อมาก โทรไปเล่าอัพเดทเหตุการณ์ให้เพื่อนสนิทฟังทุกวัน
เพื่อนมันก็ดีค่ะ ฟังเราทุกวัน เพ้อและบ้าไปกับเรา เชียร์เรามาก
เพราะเป็นผู้ชายคนแรกที่เราพูดถึงและจริงจังค่ะ
ตอนนั้นคิดเลยนะ ว่า ถ้าคนนี้โอเค คือพร้อมปักหมุดตรงนี้เลย ได้เลย ไม่กลัวแล้ว
ไม่รู้ว่าความกลัวมันหายไปไหนหมด อาจเป็นเพราะผู้ชายคนนี้เค้าเหมือนเกย์
แต่ก็มีความแมนในตัวด้วยมั้ง เลยทำให้เราไม่ค่อยเกร็ง
จากนั้นเราก็เริ่มมองแต่ผู้ชาย ไม่มองทอมเลย 555 ทั้งที่เมื่อก่อน ไม่มองเลยค่ะ
เวลาไปไหนมาไหนกับเพื่อน เพื่อนจะเม้ามอยผู้ชายที่เพิ่งเดินไป
มักจะเอ้าท์ตลอด เพราะไม่เคยมองหรือสังเกตุคนหล่อเลย
แต่ถ้าทอมเดินมา จะเหล่เลย (แบบมีชั้นเชิงด้วย) 555

จุดจบของเรื่องมันควรจะอยู่ตรงนี้ใช่มั้ย แต่เปล่าค่ะ
ก็เพราะผู้ชายคนนั้น มันเริ่มไม่โอเคไง...
เริ่มเยอะ วุ่นวาย บ้าบอ ฟอร์มที่มีอยู่แล้ว คูณ 10 เข้าไปค่ะ
(อ้อ ผู้ชายที่ว่าเค้าเป็นดาราด้วยนะคะ ไม่ได้มีชื่อเสียงขนาดนั้น
แต่ก็พอรู้จักเห็นหน้าค่าตาทางทีวี)
ด้วยเหตุนี้แล้วแน่นอนค่ะ เค้าไม่มีทางวางฟอรมแน่ๆ
ไอ้เราก็ไม่ได้เย่อหยิ่งอะไร แต่ก็รักตัวเองมากพอค่ะ เพราะเคยอกหัก
ไม่รักตัวเองมาก่อน เลยเข้าใจว่าสิ่งสำคัญยิ่งคืออะไร

เราก็เริ่มถอย เค้าก็เริ่มถอย ทั้งที่ยังไม่มีใครสารภาพหรือพูดความในใจอะไรไป
คือถ้าให้เราเดา ทางเรา เราไม่กล้าบอก เพราะกลัวผิดหวังค่ะ
ส่วนทางเค้า เค้าเคยพูดว่าเราสับสน งงๆ เราไม่ค่อยเข้าใจความหมายค่ะ
แต่ถ้าให้ตีความคือเค้าก็น่าจะไม่มั่นใจว่าเราคิดยังไงกับเค้า เราเลยเลือกเดินออกมาค่ะ
ไม่เป็นไร ..

ตอนนั้นเฮิร์ทอยู่ซักพักแล้วก็ว่างยาวค่ะ...
เราเครียดกับงานมาก ปวดหัวสุดๆ เลยไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้
จนกระทั่ง พอทุกอย่างกับงานเหมือนจะลงตัวแล้ว ความเหงาก็โทรเข้ามาอีกแล้ว
แต่ครั้งนี้เราไม่พยายามไปไขว่คว้าอะไรแล้ว เพราะทุกครั้งยิ่งพยายาม ยิ่งคว้าน้ำเหลว
ของแบบนี้รีบร้อนมันไม่ได้อะไรจริงๆค่ะ ทดสอบมาแล้วล้านรอบ ฮือ

จนเราได้มีโอกาสไปค่ายๆนึง ซึ่งคุณป้าเราเป็นคนจัดค่ายนี้ค่ะ
เป็นค่ายวิทยาศาสตร์ เห็นเราว่างอยู่เค้าเลยชวนเราไปผ่อนคลายค่ะ
เราก็ไป ซึ่งมีลูกศิษย์ที่ป้าสอนไปด้วยหลายคนค่ะ เราก็ไปชิวๆไม่คิดอะไร เพราะอยากพักผ่อนอยู่แล้ว
เราเจอน้องคนนึงที่ค่ายค่ะ เค้าไม่ใช่ทอมแต่เค้าน่าจะเป็นเลส
เราลืมบอกค่ะ ตอนเราชอบทอม เราไม่เอาเลสเลยนะคะ ไม่ได้รังเกียจนะๆ
คือมันไม่ใช่แนวเลย ไม่ใช่เลยค่ะ
จนน้องคนนี้ คือเค้าไม่ใช่เลสหวานแบบแต่งตัวผู้หญิงอะไรอย่างนั้น
เค้าจะแต่งตัวห้าวๆนิดหน่อย แต่คือเลสนะเค้าประกาศตัวว่างั้น
เราได้ยินเรื่องน้องคนนี้มาสักพักแล้วจากป้า ว่าเค้าเคยปลื้มป้าเราด้วย ป้าเราน่ารักค่ะ
แก่แล้วก็ยังน่ารักอยู่ 55 เค้าคอยปกป้องป้าเราค่ะ จากนักเรียนในห้อง ห้ามใครว่าป้าเราเลย
เราเคยเจอน้องมาก่อน แต่ไม่เคยคุยกันค่ะ ก็ปกติดี เพราะเราไม่อะไรอยู่แล้ว
แต่ในค่ายนี่สิคะ มันได้ทำอะไรหลายอย่างด้วยกัน ทำกิจกรรมทุกๆอย่างร่วมกัน
เราได้เห็นมุมที่ เออ น่ารักว่ะ คำนี้อยู่ดีๆก็ผุดมาเฉย คืองงค่ะงง
น้องเค้าตลก ขี้เล่น เฟรนลี่ กวนตีนด้วย ขี้อ้อน เอาใจใส่
เราแพ้ทางมั้ง ไม่รู้สิ 555 เพราะไอผู้ชายคนข้างบนอะ ก็ทำนองนี้เลยค่ะ แค่ฟอร์มมันเยอะ
แต่น้องคนนี้เค้าเด็กกว่าเราประมาณ 6 ปี เค้าเลยไม่มีฟอรมอะไรทั้งนั้น ใสใส
เราเริ่มรู้สึกมองน้องเค้าน่ารักขึ้นเรื่อยๆ หัวเราะเวลาเค้าพูดอะไร แอบมองหาด้วยเบาๆ 55
คือชอบไปตอนไหนไม่รู้ มารู้ตัวอีกที อ้าว ชอบไปแล้วสินะ - -
แล้วตัวน้องเค้าเอง ถ้าเอาตามเซ้นส์เรานะ คือน้องเค้าก็รู้สึกดีกับเราอะค่ะ
คอยแกล้ง แซว หยอกเราอยู่นั่น เราโตแล้วนะ แต่ก็มีหลุดเขิน
คือไอเด็กนี่ มันกวนจริงงง 5555

ซึ่งคำถามมันอยู่ตรงนี้ค่ะ ..
ไม่รู้เป็นเพราะเราเหงา
เราไม่รู้ว่าเป็นเพราะเป็นช่วงที่เราเหงาพอดี ไม่มีคนคุย หรือ เราชอบเค้าจริงๆ
พอคิดต่อไปอีก .. ถ้าชอบจริงๆล่ะ แล้วยังไงต่อ?
คือความรู้สึกเราอะ มันตอบตัวมันเองได้เลยนะ ว่าชอบ
แต่สมองอีกฝั่ง เรามองการณ์ไกลกว่านั้นอะค่ะ
เราทำงานแล้ว น้องเค้ายังไม่เข้ามหา'ลัยเลย
น้องเค้าเป็นลูกศิษย์ป้าเรา เพื่อนน้องเค้าก็นับถือเราเป็นพี่อะค่ะ
มันเกิดคำถามในหัวมากมาย ในหัวเรามันรู้สึกชอบด้วย ตลกด้วย
คิดไปว่า มันจะเป็นไปได้ไง?? มันดูบ้ามากๆ ถ้วันนึงจะคบกัน
เราเคยบอกว่าเราไม่ชอบเลสเลย แล้วนี่คืออะไร? เรากลืนน้ำลายตัวเองอีกแล้วค่ะ
เรามองว่า น้องเค้ายังเด็ก จะเข้าใจวัยทำงานได้ดีแค่ไหน ไม่อยากทำเค้าเสียใจค่ะ
ได้ยินมาว่า เค้าเพิ่งอกหักสาหัสเหมือนกัน เราไม่อยากเป็นคนทำร้ายเค้า
มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่า ควรรู้สึกยังไงดี?
คือ ถ้าเอาตามความรู้สึก มันใช่ค่ะ ไม่ต้องคิดอะไรมาก
แต่ในชีวิตจริงแล้ว ทุกคนก็รู้ใช่มั้ยคะ เราต้องใช้ชีวิตในสังคม ทั้งที่ทำงาน ไหนจะเรื่องอยากมีครอบครัว
มันไม่ใช่แค่เรื่องเพศหรอกค่ะ มันคือความกระอักอ่วนในใจด้วยเงื่อนไขหลายเรื่อง
ถ้าเป็นเพื่อนๆ จะเลือกทำยังไงคะ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่